หลังจากที่ กพฐ.เดินหน้ายุบโรงเรียนขนาดเล็ก ในจ.ขอนแก่นก็มีโรงเรียนบ้านโนนกู่ ในเขต อ.เมืองขอนแก่น ถูกยุบรวมกับโรงเรียนใกล้เคียงแล้วเช่นเดียวกัน หลังพบว่ามีนักเรียนในชั้นประถมศึกษา เพียง 18 คน และครูอีก 1 คน
นี่คือภายโรงเรียนบ้านโนนกู่ ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ถูกยุบรวมนักเรียน กับโรงเรียนบ้านม่วงโป้ ในตำบลเดียวกัน ซึ่งในปีการศึกษา2561 ที่ผ่านมา ต้องย้ายนักเรียนทั้งหมดไปที่โรงเรียนใหม่ พร้อมกับครู ที่สอนนักเรียนอยู่ที่นี่อีก1 คน คือครูประมวล ศรีอุมดม
โดยครูประมวลเล่าว่า โรงเรียนบ้านโนนกู่ เมื่อปี2561 มีครูอยู่ 4 คน เกษียณ 1 ท่าน ขอย้ายออกไปอีก 2 ท่าน พร้อมกับ จึงเหลือเพียงครูประมวล ที่ต้องอยู่สอนนักเรียนเพียงคนเดียว หลังจากนั้น มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ได้เข้ามาสอบถามคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านโนนกู่ สมัครใจเข้าเรียนร่วมกับโรงเรียนบ้านม่วงโป้ ในเขตตำบลเดียวกันหรือไม่
ซึ่งครูประมวล ได้ปรึกษารักษาการ ผอ.โรงเรียน จึงลงความเห็นว่าให้นักเรียนมาเรียนร่วมที่โรงเรียนบ้านม่วงโป้ เพราะอยู่ระแวกเดียวกัน เด็กๆ จะได้เดินทางสะดวก ซึ่งมีการย้ายนักเรียนมาตั้งแต่ปีการศึกษา2561 จำนวน 14 คน มาที่บ้านม่วงโป้ก่อน ทำให้เหลือ นักเรียน ชั้น ป.1 จำนวน3 คน ป.2 จำนวน1 คน รวม4 คน ในเทอมแรกที่ยังไม่ย้ายโร ซึ่งครูประมวลทำการเรียนการสอนคนเดียว
หลังจากนั้นในช่วงเทอมที่ 2/2561 จึงต้องย้ายนักเรียนอีก4 คน มาเรียนที่เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการวิชาการ การเรียนการสอน ซึ่งปัญหาที่พบคือ โรงเรียนขนาดเล็ก พยุงตัวเองไม่ไ้ จึงต้องมาอยู่รวมกับโรงเรียนที่แข็งแรงอย่างโรงเรียนบ้านม่วงโป้ ที่มีนักเรียนขณะนี้ 115 คน
ในขณะที่ครูประมวลก็ย้ายมาสอนเด็กๆที่นี่ด้วย โดยสอนในระดับชั้น ป.3 -ป.6 ในรายวิชา ประวัติศสตร์ การงานพื้นฐานอาชีพ สุขศึกษา ศิลปะ ลูกเสือ และวิชาแนะแนว โดยหลังจากย้ายมาเรียนร่วม นั้นครูประมวลก็ได้พูดคุยกับนักเรียนว่าพบปัญหาด้านใดบ้าง แรกๆ มีปัญหาเรื่องการรับ – ส่ง หลังจากนั้นทางสำนักงานเขตฯได้มีการจัดสรรค่าพาหนะให้เด็กๆ 18 คนเพื่อเดินทางมาโรงเรียน
ทางครูประมวลยังเล่าอีกว่าโรงเรียนบ้านโนนกู่สร้างมาตั้งแต่ปี 2483 แต่ต้องมาถูกยุบกลายเป็นโรงเรียนร้าง รู้สึกเห็นใจผู้ปกครองที่ร่วมสร้างโรงเรียนมา เพราะส่วนใหญ่เป็นแรงจากชาวบ้านที่ราวมกันสร้าง เรื่องจาก สมัยนั้นกว่างบประมาณการสร้างจะมาถึง ก็ต้องใช้เวลานาน
ส่วนเด็กชายพีรภัทร์ เชื้อสาวะถี นักเรียนชั้น ป.5 ที่ย้ายมาจาก โรงเรียนบ้านโนนกู่บอกว่า แรกๆก็ต้องประบตัวเพราะเป็นโรงเรียนใหม่ แต่หลังๆเริ่มสนุกเพราะมีเพื่อนๆเยอะ กว่าที่เดิม ส่งนที่พบปัญหาคือการเดินทางเนื่องจาก ต้องขึ้นรถสองแถวเบียดกับนักเรียนเดิมที่บ้านม่วงโป้ แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว
ข่าวโดย เนชั่น